มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
KING MONGKUT'S UNIVERSITY OF TECHNOLOGY NORTH BANGKOK
เปลี่ยนการแสดงผล :
นักศึกษา
หน้าแรก > ข่าวสาร > ข่าวนักศึกษา > สัมภาษณ์พิเศษ หนุ่มหน้าใส “ภัทร” สาขาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ มจพ.วิทยาเขตปราจีนบุรี
สัมภาษณ์พิเศษ หนุ่มหน้าใส “ภัทร” สาขาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ มจพ.วิทยาเขตปราจีนบุรี
News Date11 กันยายน 2561
เช่นเคยค่ะ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ มจพ. ก็ลงพื้นที่รอบๆ มจพ. เป็นแมวมอง มองหา
กลุ่มนักศึกษาเพื่อพูดคุยกับน้องๆ นักศึกษาในประเด็นที่ว่า กิจกรรมที่ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัย และความคิดเห็นเกี่ยวกับอาเซียน (ASEAN) สะท้อนอะไรให้เราเห็นบ้าง มาฟังความคิดเห็น หนุ่ม “ภัทร” เล่ากันค่ะ
      ก่อนที่ผมจะได้มาเรียนอยู่ที่คณะอุตสาหกรรมเกษตร มจพ.วิทยาเขตปราจีนบุรี ผมจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจาก โรงเรียน เสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล” จ.สระบุรี และเหตุผลง่ายๆ สำหรับผมที่เลือกเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ เพราะผมมองว่ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับของวงการการศึกษา และเลือกที่จะเรียนคณะอุตสาหกรรมเกษตร เพราะทางด้านสายอาหารเป็นสายที่น่าสนใจ และทุกวันนี้มนุษย์ให้ความสำคัญและอยู่ใกล้ชิดกับอาหารมากๆ และน่าจะหางานทำได้ไม่ยาก
      มหาวิทยาลัยไม่เพียงแต่ให้ความรู้กับผม แต่ยังมีกิจกรรมมากมายให้ผมได้เลือกทำมากกว่าการนั่งเรียนในห้องเรียน ซึ่งผมได้ร่วมกิจกรรมและมีผลงาน ได้แก่
  • ระดับมัธยมศึกษา :  - เป็นนักกีฬาแบดมินตันของจังหวัดสระบุรี ซึ่งผ่านการแข่งขันและได้รับรางวัลตั้งแต่ระดับจังหวัด เขต จนถึงระดับประเทศ และได้ร่วมทีมไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น
  • ปีการศึกษา 2557 : - ได้รับคัดเลือกเป็น "เดือน" คณะอุตสาหกรรมเกษตร มจพ.วิทยาเขตปราจีนบุรี
  • ปีการศึกษา 2559 : - ในปีการศึกษานี้ได้รับหน้าที่ในการเป็นผู้อัญเชิญพระมหามงกุฎ จาก “การคัดเลือกตัวแทนผู้อัญเชิญพระมหามงกุฎ ประจำปีการศึกษา 2559”
  • ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองจากการแข่งขัน “การตอบปัญหาทางวิชาการ
  • ด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร” ระดับภายในคณะ
      ทัศนคติต่ออาเซียน ในมุมมองของผม “ผมมองว่ามันเป็นการเปิดโลกใหม่ ทำให้คนสนใจในการสื่อสารโดยใช้ภาษาอื่นมากขึ้น มีมุมมองใหม่ๆ ที่มากขึ้น ซึ่งบางคนอาจมองว่าเป็นการเพิ่มคู่แข่งทางด้านการทำงาน แต่ถ้ามองอีกมุมมองผมว่ามันจะทำให้เราต้องกระตุ้นตัวเอง ใส่ใจที่จะหาความรู้ให้มากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เรากลายเป็นคนที่มีศักยภาพที่มีมากขึ้นด้วย” ซึ่งโดยส่วนตัวผมเองก็เป็นคนที่ชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้ว แต่มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศน้อย จึงทำให้ผมไม่ค่อยได้มีโอกาสในการพูดภาษาอังกฤษ และการที่มหาวิทยาลัยตอบรับการเปิดประชาคมอาเซียน (ASEAN) และมีชาวต่างชาติเข้ามาเพื่อการศึกษาหรือประกอบธุรกิจมากขึ้น ผมคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาว มจพ. ที่จะใช้ภาษาอังกฤษที่เคยเรียนมาตั้งแต่อนุบาลในการสื่อสารมากขึ้น ซึ่งผมก็จะเป็นหนึ่งคนไทยรุ่นใหม่ที่กล้าจะใช้ภาษาที่สองมากขึ้นเช่นกัน และผมยังได้ให้ความสำคัญและมองว่า “กระแสการเข้าสู่การเป็น AEC จากหลายๆ ภาคส่วนมีจำนวนมาก รวมถึงสถาบันทางการศึกษา ก็ได้มีการปรับกลยุทธ์ แผนปฏิบัติงานให้สอดรับกับทิศทางดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นโอกาส และความท้าทายของเยาวชนที่ต้องเรียนรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการศึกษา เช่น ด้านวิชาชีพ  เมื่ออยู่ภายใต้วิชาชีพอาเซียน ต้องปฏิบัติเช่นไร และต้องพัฒนาหรือเสริมสร้างอะไรเข้าไป  การเรียนรู้ที่ต้องพัฒนาตนเองให้มากขึ้นในการทำงาน  การมีมาตรฐาน และเทคนิควิชาชีพในการประกอบอาชีพอย่างรอบด้าน เพราะแรงงานทุกประเภทจะเกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรี”
อยากให้มหาวิทยาลัยสนับสนุนในเรื่องของภาษานะครับ พัฒนาโดยการเปิดสอนภาษาของประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียน หรือภาษาอังกฤษที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นภาษากลาง หรืออาจจะจัดกิจกรรมที่ให้นักศึกษาต่างชาติเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้นักศึกษาของ มจพ. เปิดใจและกล้าที่จะใช้ภาษาที่สองมากขึ้น
สุดท้ายผมเชิญชวนทุกๆ คนนะครับ อยากให้สนใจในเรื่องของอาเซียนให้มากขึ้น อย่ามองข้ามเพียงเพราะเราไม่ชอบภาษาที่สอง และพัฒนาตัวเองให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เพื่อที่จะเพิ่มโอกาสในการแข่งขันและศักยภาพของตนเองให้พร้อมในวันข้างหน้าครับ
# มจพ. วิทยาเขตปราจีนบุรี
#อาเซียน (ASEAN)
#วิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ
 
ขวัญฤทัย ข่าว/ภาพ