เปลี่ยนการแสดงผล
หน้าแรก
เกี่ยวกับ มจพ.
ประวัติ
สัญลักษณ์
วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / สมรรถนะหลัก / และค่านิยมร่วม
โครงสร้างองค์กร
วิทยาเขต
คณะผู้บริหาร
นโยบายมหาวิทยาลัย
รายงานประจำปี
องค์กรโปร่งใส
คณะและหน่วยงาน
มจพ. กรุงเทพฯ
มจพ. ปราจีนบุรี
มจพ. ระยอง
รับสมัครนักศึกษา
ปวช และปริญญาตรี
ปริญญาโทและปริญญาเอก
วิจัยและบริการวิชาการ
ผลงานวิจัยเด่น
ฐานข้อมูลนักวิจัย
วารสารวิชาการ
งานบริการวิชาการ
ติดต่อ
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
มจพ. กรุงเทพฯ
มจพ. วิทยาเขตปราจีนบุรี
มจพ. วิทยาเขตระยอง
ITA
นักศึกษา
ศิษย์เก่า
บุคลากร
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
KING MONGKUT'S UNIVERSITY OF TECHNOLOGY NORTH BANGKOK
เปลี่ยนการแสดงผล :
นักศึกษา
ศิษย์เก่า
บุคลากร
Search for:
หน้าแรก
เกี่ยวกับ มจพ.
ประวัติ
สัญลักษณ์
วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / สมรรถนะหลัก / และค่านิยมร่วม
โครงสร้างองค์กร
วิทยาเขต
คณะผู้บริหาร
นโยบายมหาวิทยาลัย
รายงานประจำปี
องค์กรโปร่งใส
คณะและหน่วยงาน
มจพ. กรุงเทพฯ
มจพ. ปราจีนบุรี
มจพ. ระยอง
รับสมัครนักศึกษา
ปวช และปริญญาตรี
ปริญญาโทและปริญญาเอก
วิจัยและบริการวิชาการ
ผลงานวิจัยเด่น
ฐานข้อมูลนักวิจัย
วารสารวิชาการ
งานบริการวิชาการ
ติดต่อ
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
มจพ. กรุงเทพฯ
มจพ. วิทยาเขตปราจีนบุรี
มจพ. วิทยาเขตระยอง
ITA
สัมภาษณ์พิเศษ !!! ศ.ดร. ปณิตา วรรณพิรุณ ศาสตราจารย์สาขาการศึกษาที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสารเพื่อการศึกษา นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์
03 กุมภาพันธ์ 2568
ศาสตราจารย์
ดร. ปณิตา วรรณพิรุณ
ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ในสาขาวิชาครุศาสตร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย : ตริตาภรณ์ช้างเผือก เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2565
ศาสตราจารย์ ปณิตา วรรณพิรุณ สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรีและปริญญาโท สาขาวิชาเทคโนโลยีทางการศึกษา จากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ระดับปริญญาเอก สาขาวิชาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา จากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยทุนพัฒนาอาจารย์ตามเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ศาสตราจารย์ ดร. ปณิตา เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ ประจำภาควิชาครุศาสตร์เทคโนโลยีและสารสนเทศ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และตำแหน่งหัวหน้าสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา หัวหน้าศูนย์วิจัยการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นกรรมการบริหารสมาคมวิชาชีพ ได้แก่ ประธาน IEEE Education Chapter, Thailand Sectionและ กรรมการบริหารสมาคมเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา (THAI AECT) ฝ่ายยุทธศาสตร์สื่อสารองค์กรภาครัฐ เป็นต้น ด้วยลักษณะการทำงานและสอนหนังสือ ก็จะคุ้นเคยและเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสารเพื่อการศึกษา นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ และนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะทางการศึกษาแล้ว อาจารย์เป็นกรรมการบริหารหลักสูตรปรัชญดุษฎีบัณฑิตและวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการศึกษา คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและสร้างนวัตกรรมและผลวิจัยอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง
ส่วนรางวัลที่การันตีผลงานคุณภาพด้านต่าง ๆ ได้แก่ รางวัลนักวิจัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ประจำปี 2566 นักวิจัยดีเด่นด้านสังคมศาสตร์ รางวัลศูนย์วิจัยดีเด่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ประจำปี 2566 และรางวัลชนะเลิศศูนย์วิจัยโดดเด่นด้านผลงานวิจัย พัฒนา บริการวิชาการ จากแหล่งทุนภายนอก รางวัลชนะเลิศศูนย์วิจัยโดดเด่นด้านทรัพย์สินทางปัญญา ได้รับรางวัลรางวัลผลงานคุณภาพ NRCT Quality Achievement Award สำนักงานการวิจัยแห่งชาติผลงานประดิษฐ์คิดค้น เรื่อง “การออกแบบและพัฒนาหมอนรองคอต้นแบบในการตรวจจับเสียงกรนด้วยเทคนิคสมองกลฝังตัวสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหานอนกรน” (สาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย) ปี 2567 รางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลวิทยานิพนธ์ ประจำปีงบประมาณ 2566 ระดับดี จาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เรื่อง การพัฒนาระบบจัดการคลังปัญญาแบบวิศวกรรมความรู้ดิจิทัลด้วยจักรกลการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมสมรรถนะด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (Knowledge Repository Management System Development of Digital Knowledge Engineering Using Machine Learning to Promote Software Engineering Competencies) และ รางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลวิทยานิพนธ์ ประจำปีงบประมาณ 2565 ระดับดีจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในฐานะอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เรื่อง สภาพแวดล้อมการเวียนรู้แบบดื่มด่ำเสมือนจริงด้วยการเล่าเรื่องดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงลึกของนักศึกษาระดับปริญญาตรี (Virtual Immersive Learning Environment Based on Digital Storytelling to Enhance Deeper Learning for Undergraduate Students)
สิ่งที่สะท้อนถึงความตั้งใจ มุ่งมั่นผลงานวิจัยของอาจารย์ คือการได้พัฒนานวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลงานวิจัยและเป็นนักวิจัยยอดเยี่ยมที่มีผลงานชั้นยอดเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ได้บุกเบิกองค์ความรู้ใหม่และขยายงานวิจัยครอบคลุมงานหลายด้านได้รับการยอมรับในวงวิชาการระดับนานาชาติ เช่น ผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ ISI: 64 documents, H-Index 9, 220 Citing Articles; SCOPUS: 105 documents, 501 Citations by 397 documents, h-index 11; Google Scholar: Citations 2,613 h-index 25 เป็นต้น
โครงการวิจัยและการพัฒนานวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีดิจิทัลนำไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชของภาคอุตสาหกรรม ด้านสังคมและด้านการศึกษา ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
เช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) เป็นต้น
เมื่อถามถึงแรงบันดาลใจที่นำพาไปสู่ความสำเร็จในตำแหน่งศาสตราจารย์ อาจารย์ตอบได้ดีและมีเป้าหมายชัดเจน ตรงประเด็น ตรงไปตรงมาว่า
ได้รับจากคำสอนและคำอวยพรอันทรงคุณค่าจากคุณพ่อและคุณแม่ในวันแรกที่เริ่มต้นชีวิตการทำงาน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
คำกล่าวที่ตราตรึงในใจคือ
“ครูทั่วไป อ่านหนังสือหรือฟังผู้รู้เล่า เพื่อนำมาสอนหนังสือ ครูที่ดี สร้างประสบการณ์จากการลงมือปฏิบัติ เพื่อนำมาสอนลูกศิษย์
ครูที่ยิ่งใหญ่ คือผู้สร้างแรงบันดาลใจ จนสามารถเปลี่ยนชีวิตของลูกศิษย์ได้ ขอให้ลูกเป็นครูผู้เป็นแสงสว่างและสร้างแรงบันดาลใจให้กับลูกศิษย์
”
คำสอนนี้กลายเป็นหลักการที่ชี้นำแนวทางการทำงานด้วยความมุ่งมั่นในการเป็น
"ครูผู้สร้างแรงบันดาลใจ"
ไม่เพียงแต่ให้ความรู้ แต่ยังเป็นผู้ที่ช่วยจุดประกายความคิดและความหวังให้กับลูกศิษย์ ความมุ่งมั่นนี้นำไปสู่การถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการด้วยแนวทางที่ถูกต้อง สร้าง
"เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา"
ที่จะเติบโตเป็นต้นกล้า พัฒนาเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ให้ดอกผลแห่งความดีงามและความเจริญรุ่งเรืองทางปัญญา เป้าหมายสูงสุดไม่ได้หยุดเพียงแค่การสร้างบุคคลากรที่มีคุณภาพในปัจจุบัน แต่ยังมุ่งเน้นการส่งต่อคุณค่าเหล่านี้ไปยังรุ่นถัดไป เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน โดยหวังให้ทุกการกระทำเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และความก้าวหน้าของประเทศไทยในอนาคต
สิ่งที่น่าประทับใจในรั้วมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คือวิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับสูงทั้งท่านนายกสภาและท่านอธิการบดี ที่ได้กำหนดนโยบายที่ไม่เพียงสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร แต่ยังสร้างกลไกที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เติบโตและพัฒนาตนเองอย่างเต็มศักยภาพ มจพ. ถือเป็นต้นแบบของ
ระบบนิเวศการทำงานที่มีความสุข (
Happy Work Ecosystem)
ที่เอื้อให้บุคลากรร่วมทำงานด้วยความรัก ความผูกพัน และความสามัคคี เหมือนครอบครัวใหญ่ที่มีเป้าหมายร่วมกัน อีกสิ่งหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจคือ มจพ. เป็นองค์กรการเรียนรู้สมรรถณะสูงที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับนานาชาติ การที่ทุกคนในองค์กรมีวิสัยทัศน์และเป้าหมายเดียวกัน สร้างบรรยากาศที่กระตุ้นให้เกิดความทุ่มเท เสียสละ และความสุขในการทำงาน สำหรับดิฉัน มจพ. ไม่ใช่แค่สถานที่ทำงาน แต่เป็นบ้านหลังที่สอง ที่ไม่เพียงอบรมสั่งสอน แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์และพัฒนา จนสามารถนำพาองค์กรและบุคลากรทุกคนไปสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการในระดับนานาชาติได้อย่างแท้จริง
สุดท้ายนี้ ศ.ดร. ปณิตา วรรณพิรุณ ฝากข้อคิดสำหรับบุคลากรที่ต้องการประสบความสำเร็จทางวิชาการไว้ว่าการเดินทางในเส้นทางวิชาการที่มุ่งสู่ตำแหน่งศาสตราจารย์อย่างมีความสุขนั้น ประกอบไปด้วย 4 องค์ประกอบสำคัญ คือ
1. กัลยาณมิตรทางวิชาการ (Academic Companions)
“เดินคนเดียวอาจไปได้ไว แต่ถ้าต้องการไปให้ไกล ต้องเดินไปด้วยกัน”
การมีเครือข่ายกัลยาณมิตรที่ดีคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จทางวิชาการ เราควรมีกัลยาณมิตร 3 กลุ่ม ได้แก่
กัลยาณมิตรที่อยู่สูงกว่าเรา (
Senior Companions)
คือผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจ ชี้แนะ และช่วยชี้แนวทางการพัฒนาผลงานให้ถูกต้องและดีงาม
กัลยาณมิตรที่อยู่ในระดับเดียวกัน (
Peer Companions)
คือผู้ที่เติบโตไปพร้อมกัน แบ่งปันความรู้ ให้กำลังใจ และร่วมกันประสบความสำเร็จ
กัลยาณมิตรที่อยู่ด้านล่างเรา (
Junior Companions)
คือทีมงานและน้อง ๆ ที่สนับสนุนการทำงาน พร้อมรับการถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ เพื่อนำไปพัฒนาตนเองและทีมต่อไป
2. ความสุขและแรงบันดาลใจ (Happiness and Inspiration)
บนเส้นทางสู่ความสำเร็จนั้นล้วนมีความท้าทายเสมอ การสร้างมุมมองที่สร้างสรรค์และมุ่งมั่นในเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ “เป้าหมายเป็นหลักอุปสรรค์ไม่มี” ความสุขในการทำงานและแรงบันดาลใจในสิ่งที่ทำจะช่วยเสริมพลังให้เราก้าวข้ามทุกความท้าทาย และพาเราสู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้
3. ความจริงใจ (Sincere)
การสร้างผลงานทางวิชาการไม่ใช่เพียงเพื่อบรรลุเป้าหมายส่วนตัว แต่คือการมุ่งสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นและสังคม ความจริงใจในทุกหน้าที่ ทั้งการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ และงานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย จะช่วยให้เราทำงานได้ดีที่สุดและเต็มที่ที่สุด ด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ
4. การเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง (Continuous Learning and Self-Development)
เส้นทางสายวิชาการคือการเดินทางที่ไม่สิ้นสุด การเรียนรู้ใหม่ ๆ การปรับตัว และการเปิดรับความคิดเห็นจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของเราให้เติบโตอย่างมั่นคง
ขอส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกท่านในการสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยม ไม่เพียงเพื่อตนเอง แต่เพื่อสร้างคุณูปการแก่สังคมและประเทศชาติของเราให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
ในโอกาสวาระพิเศษนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ขอแสดงความยินดีกับศาสตราจารย์ ดร. ปณิตา วรรณพิรุณ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในวงการศึกษาวิจัยในสาขาวิชาครุศาสตร์ โดยมีผลงานวิชาการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการนานาชาติมากมาย เป็นแบบอย่างด้านวิจัยที่ดีเด่น เป็นนักคิด นักพัฒนา นักสร้างสรรค์ ที่ได้สร้างคุณูปการในวงการศึกษาไทย เป็นผู้มีผลงานในสาขาวิชาต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ จนได้รับการโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ นับเป็นเกียรติประวัติที่มีคุณค่าเคียงคู่มหาวิทยาลัยสืบไป
ขวัญฤทัย ข่าว/สมเกษ ถ่ายภาพ